รับทำบัญชี.COM | ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าปรับปรุงบันทึกบัญชีอยู่หมวด?

Click to rate this post!
[Total: 183 Average: 5]

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

ค่าใช้จ่ายที่กิจการจ่ายเงินแล้วแต่มีบางส่วนที่เป็นของงวดบัญชีต่อไป

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า (Prepaid Expenses) คือ ค่าใช้จ่ายที่กิจการจ่ายเงินแล้วแต่มีบางส่วนที่เป็นของงวดบัญชีต่อไปรวมอยู่ด้วย เช่น ค่าเช่าจ่ายล่วงหน้า ค่าเบี้ยประกันจ่ายล่วงหน้า ค่าโฆษณาจ่ายล่วงหน้า
การบันทึกบัญชี ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำได้ 2 วิธี  คือ
1บันทึกไว้เป็นสินทรัพย์ เมื่อจ่ายเงินสดจะลงไว้ในบัญชีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า เมื่อสิ้นงวดบัญชีให้โอนส่วนที่เป็นของงวดบัญชีปัจจุบันเป็นค่าใช้จ่าย

2บันทึกไว้เป็นค่าใช้จ่าย เมื่อจ่ายเงินสดจะลงบัญชีไว้เป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวน เมื่อสิ้นงวดบัญชีให้โอนส่วนที่เป็นของงวดบัญชีถัดไปเป็นค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า (Prepaid Expenses) เป็นรายจ่ายที่ชำระล่วงหน้าในระยะเวลาที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นแต่จะเกิดขึ้นในอนาคต รายจ่ายดังกล่าวมักถูกชำระล่วงหน้าเพื่อรับบริการหรือสิ่งของในอนาคต เช่น ค่าเช่าที่ชำระล่วงหน้า, ค่าประกันภัยที่ชำระล่วงหน้า, ค่าอินเทอร์เน็ตที่ชำระล่วงหน้า เป็นต้น

การบัญชีค่าใช้จ่ายล่วงหน้ามักใช้เพื่อระบุการชำระเงินล่วงหน้าและการบันทึกประวัติการจ่ายเงินเหล่านี้ในระบบบัญชีขององค์กร นี่คือวิธีการบัญชีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

  1. บันทึกการชำระล่วงหน้า เมื่อค่าใช้จ่ายล่วงหน้าถูกชำระ เริ่มต้นด้วยการบันทึกรายละเอียดของการชำระเงินในสมุดบัญชี สมุดบัญชีที่เรียกว่า “Prepaid Expenses” หรือ “ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า” จะถูกใช้ในการบันทึกข้อมูลนี้

  2. สร้างรายการเดบิต การชำระเงินล่วงหน้าจะเป็นการลดส่วนของเงินที่มีในบัญชีเงินสดหรือเงินธนาคารขององค์กร ดังนั้นคุณจะต้องทำรายการเดบิต (debit) เพื่อลดบัญชีเงินสดหรือเงินธนาคาร ยอดเดบิตจะเท่ากับจำนวนเงินที่ชำระล่วงหน้า

  3. สร้างรายการเครดิต ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าต้องถูกบันทึกในบัญชีที่เหมาะสม เมื่อบันทึกรายการเครดิต (credit) จะเพิ่มเงินในบัญชีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ยอดเครดิตจะเท่ากับจำนวนเงินที่ชำระล่วงหน้า

  4. ตรวจสอบสมดุลบัญชี ตรวจสอบว่าสมุดบัญชีค่าใช้จ่ายล่วงหน้ามีสมดุลครบถ้วน คือ ยอดเดบิตเท่ากับยอดเครดิต เพื่อให้แน่ใจว่าการบันทึกเงินล่วงหน้าถูกต้อง

  5. การสรุปบัญชี ในท้ายงวดบัญชี เมื่อค่าใช้จ่ายล่วงหน้าเริ่มเกิดขึ้น คุณจะต้องปรับปรุงสมุดบัญชีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าโดยลดเครดิตในบัญชีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและเพิ่มเดบิตในบัญชีรายจ่ายที่เกี่ยวข้อง

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้ามีความสำคัญในการบัญชีเนื่องจากมีผลต่อรายงานการเงินและความสมดุลของบัญชี การบันทึกและจัดการค่าใช้จ่ายล่วงหน้าอย่างถูกต้องช่วยให้องค์กรสามารถติดตามรายได้และค่าใช้จ่ายในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมบูรณ์แบบ

ค่าใช้จ่ายที่กิจการจ่ายเงินแล้วแต่มีบางส่วนที่เป็นของงวดบัญชีต่อไป

เงินจ่ายล่วงหน้า หมายถึง

– ผู้รับจ้างจะต้องนำเงินจ่ายล่วงหน้ามารวมคำนวณเป้นรายได้เพื่อเสียภาษีเงินได้เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร
– บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้ว่าจ้าง เมื่อจ่ายเงินล่วงหน้า มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 ของเงินจ่ายล่วงหน้า เมื่อมีการจ่ายค่างวดงานแต่ละงวดให้แก่ผู้รับจ้าง ผู้ว่าจ้างมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 3.0 ของเงินค่างวดงานหลังหักเงินจ่ายล่วงหน้าในแต่ละงวดออกแล้ว
– ผู้รับจ้างต้องนำเงินจ่ายล่วงหน้ามารวมคำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษี ตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากรโดยถือความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการให้บริการเกิดขึ้นในขณะได้รับชำระเงินดังกล่าว ตามมาตรา 78/1 (1) แห่งประมวล

 

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า หมวดไหน

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าอาจจัดอยู่ในหมวดหลายประเภท แต่มักจะถูกจัดในหมวด “ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า” หรือ “ค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระล่วงหน้า” ซึ่งเป็นหมวดหมู่ที่ใช้ในการบัญชีเพื่อระบุรายการเงินที่ต้องชำระล่วงหน้าก่อนการใช้บริการหรือสินค้า หรือก่อนเวลาที่เกิดการกระทำที่สำคัญ เช่น การจองโรงแรม, การเช่ารถ, การสั่งอาหาร, ค่าบริการอินเทอร์เน็ตแบบความเร็วสูง หรือค่าบริการสมาชิกต่างๆ อย่างไรก็ตาม หมวดหมู่ที่ถูกใช้ก็อาจแตกต่างกันไปตามการจัดหมวดหมู่ในระบบบัญชีของแต่ละองค์กรหรือประเภทของค่าใช้จ่ายนั้นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า ภาษาอังกฤษ

ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าในภาษาอังกฤษเรียกว่า “prepayment” หรือ “advance payment”

ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า สินทรัพย์หมุนเวียน

ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์หมุนเวียนในภาษาอังกฤษเรียกว่า “prepaid expenses” หรือ “prepaid assets”.

สินทรัพย์หมุนเวียนเป็นสินทรัพย์ที่มีลักษณะที่ใช้งานและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาในธุรกิจ เช่น วัตถุดิบหรือวัสดุประกอบการผลิต สินค้าสำเร็จรูป หนี้สินที่ค้างอยู่จากลูกค้า และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานประจำวันของธุรกิจ เช่น ค่าเช่าโกดัง ค่าเช่าเครื่องจักร ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าโทรศัพท์ และค่าไฟฟ้า หากธุรกิจชำระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ล่วงหน้า ก็จะถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้าหรือสินทรัพย์หมุนเวียนที่ชำระล่วงหน้า โดยจะถูกนำเข้าบัญชีเป็นสินทรัพย์เงินสดล่วงหน้าในรายการเงินสดและรายการสินทรัพย์หมุนเวียนของธุรกิจ

ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า มาตรฐานการบัญชี

ในมาตรฐานการบัญชีที่ใช้ทั่วไป เช่นมาตรฐานการบัญชีระบบสอง หรือ Generally Accepted Accounting Principles (GAAP) ในสหรัฐอเมริกา หรือมาตรฐานการบัญชีระบบหนึ่ง หรือ International Financial Reporting Standards (IFRS) ที่ใช้ทั่วไปทั่วโลก ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้าจะถูกจัดทำเป็นรายการในส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียน โดยเป็นส่วนหนึ่งของรายการ “Prepaid Expenses” หรือ “Prepaid Assets” ซึ่งจะถูกบันทึกในบัญชีในส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียน เพื่อแสดงว่าเป็นเงินที่จ่ายล่วงหน้าสำหรับการใช้งานหรือการได้รับบริการในอนาคต รายการนี้จะถูกประมวลผลเมื่อค่าใช้จ่ายจริงๆ ถูกเกิดขึ้นและเป็นค่าใช้จ่ายประจำในช่วงเวลาที่กำหนดไว้

ปรับปรุงค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า

การปรับปรุงค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้าสามารถทำได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ตรวจสอบและประเมินค่าใช้จ่ายล่วงหน้าที่มีอยู่ ทำการตรวจสอบและประเมินรายการค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระล่วงหน้าที่มีอยู่ในระบบบัญชีของธุรกิจของคุณ นำเข้าข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับรายการค่าใช้จ่ายที่ล่วงหน้าทั้งหมด.

  2. ปรับปรุงจำนวนและระยะเวลา ให้แน่ใจว่าจำนวนเงินและระยะเวลาที่ล่วงหน้าเป็นไปตามข้อมูลที่ถูกต้องและประสงค์เพื่อความแม่นยำในการบัญชี.

  3. ปรับปรุงสถานะบัญชี อัปเดตสถานะของบัญชีเพื่อระบุว่าเป็นการชำระล่วงหน้า อาจใช้รหัสหรือตัวระบุเพิ่มเติมในรายการบัญชีเพื่อแยกแยะรายการค่าใช้จ่ายล่วงหน้า.

  4. ตรวจสอบการบันทึก ตรวจสอบและตรวจสอบการบันทึกรายการค่าใช้จ่ายล่วงหน้าเพื่อให้แน่ใจว่ามีความถูกต้องและเป็นระเบียบตามมาตรฐานการบัญชีที่ใช้.

  5. รายงานและวิเคราะห์ สร้างรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้าเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าใจและวิเคราะห์ข้อมูลในการตัดสินใจทางธุรกิจ.

การปรับปรุงค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้าจะช่วยให้ระบบบัญชีของธุรกิจของคุณเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีและแสดงความถูกต้องของข้อมูลทางการเงินของธุรกิจของคุณ

เงินจ่ายล่วงหน้าค่าสินค้า

เงินจ่ายล่วงหน้าค่าสินค้าหมายถึงการชำระเงินสำหรับค่าสินค้าที่คุณจะได้รับในอนาคตก่อนเวลาที่กำหนดตามข้อตกลงหรือเงื่อนไขการซื้อขายที่กำหนดไว้เริ่มต้น นั่นหมายความว่าคุณจะต้องชำระเงินก่อนเพื่อยืนยันการสั่งซื้อสินค้าและให้ผู้ขายเตรียมส่งสินค้าให้คุณในภายหลังเมื่อคุณชำระเงินล่วงหน้าเสร็จสิ้น การเงินจ่ายล่วงหน้าค่าสินค้าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการซื้อขายที่มักพบในการซื้อสินค้าทางออนไลน์หรือการสั่งซื้อสินค้าจากผู้ขายโดยตรงที่ต้องการการชำระเงินล่วงหน้าเพื่อรับสินค้าในภายหลัง.

ค่าเบี้ยประกันจ่ายล่วงหน้า บันทึกบัญชี

การบันทึกบัญชีค่าเบี้ยประกันจ่ายล่วงหน้าอาจแบ่งออกเป็นสองขั้นตอนหลัก ดังนี้

  1. การบันทึกเงินที่ชำระล่วงหน้า

    • ในฝั่งผู้ชำระเงิน จะมีการลดบัญชีเงินสดหรือบัญชีเงินฝากที่ใช้ในการจ่ายเงินล่วงหน้า โดยเพิ่มจำนวนเงินที่จ่ายล่วงหน้าในบัญชีเงินสดหรือบัญชีเงินฝาก ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นรายการเงินที่เรียกว่า “เงินจ่ายล่วงหน้า” หรือ “Prepaid Insurance” ในบัญชี

    • ในฝั่งผู้รับเงิน จะมีการบันทึกรายการที่เรียกว่า “รายได้จ่ายล่วงหน้า” หรือ “Unearned Revenue” ในบัญชี โดยเพิ่มจำนวนเงินที่ได้รับล่วงหน้าจากการขายเบี้ยประกันในบัญชีเงินสดหรือบัญชีลูกหนี้ รายการนี้จะถูกปรับปรุงเมื่อผู้รับเงินได้รับบริการประกันจริงๆ

  2. การปรับปรุงรายการเบี้ยประกันเมื่อค่าเบี้ยประกันเกิดขึ้น

    • เมื่อค่าเบี้ยประกันเกิดขึ้น คุณจะต้องปรับปรุงบัญชีเงินสดหรือบัญชีลูกหนี้เพื่อลดจำนวนเงินที่เรียกเก็บล่วงหน้า และเพิ่มจำนวนเงินที่เกิดจากการขายเบี้ยประกัน รายการนี้จะถูกบันทึกเป็นรายการเงินที่เรียกว่า “ค่าใช้จ่ายประกัน” หรือ “Insurance Expense” ในบัญชี

การบันทึกบัญชีค่าเบี้ยประกันจ่ายล่วงหน้าอาจแตกต่างกันไปตามนโยบายบัญชีและการจัดทำรายงานทางการเงินของแต่ละธุรกิจ ควรปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่ใช้และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงินของคุณ

วิธีคำนวณ ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

วิธีคำนวณค่าใช้จ่ายล่วงหน้าจะขึ้นอยู่กับลักษณะของค่าใช้จ่ายและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถคำนวณได้ดังนี้

  1. หากค่าใช้จ่ายล่วงหน้ามีจำนวนเงินที่ต้องชำระเป็นจำนวนเดียว ให้คุณนำจำนวนเงินที่ต้องชำระล่วงหน้าแล้วหารด้วยจำนวนเดือนหรือช่วงเวลาที่ค่าใช้จ่ายครอบคลุม เพื่อหาค่าใช้จ่ายล่วงหน้าต่อเดือนหรือต่อช่วงเวลาที่กำหนด

    ตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า 30,000 บาท สำหรับระยะเวลา 6 เดือน ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าต่อเดือน = 30,000 บาท ÷ 6 เดือน = 5,000 บาทต่อเดือน

  2. หากค่าใช้จ่ายล่วงหน้ามีจำนวนเงินและระยะเวลาที่ต้องชำระแตกต่างกัน ให้คุณนำจำนวนเงินที่ต้องชำระล่วงหน้าและหารด้วยระยะเวลาที่กำหนดเพื่อหาค่าใช้จ่ายล่วงหน้าต่อเดือนหรือต่อช่วงเวลาที่กำหนด

    ตัวอย่าง ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า 20,000 บาท สำหรับระยะเวลา 12 เดือน ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าต่อเดือน = 20,000 บาท ÷ 12 เดือน = 1,666.67 บาทต่อเดือน

โดยการคำนวณค่าใช้จ่ายล่วงหน้านี้เป็นแนวทางเบื้องต้นเท่านั้น ควรตรวจสอบกับบัญชีและการเงินของธุรกิจของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าการคำนวณเป็นไปตามนโยบายและเกณฑ์ที่กำหนดไว้

Accounting in English (รับทำบัญชี ภาษาอังกฤษ)

We provide accounting services by preparing financial statements in English version. Our specialist team will collect your business's financial information in a strict, and simple manner.

We will issue useful financial statements, accurate, and efficient. You can make business decisions with confidence, and spend less time managing accounting work which is safe and reliable.

Whether you are a small or large business. Our services will be fully responsive to your needs and goals. We will support you in developing and growing your business.

Contact : 084-343-8968 ( Chaniyada )