ความรู้ของการทำบัญชี ทำภาษีแบบเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ เชื่อว่าอาจจะยากเอาการ โดยเฉพาะเจ้าของกิจการที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวส่วนใหญ่มักจะวุ่นวายในการทำงาน และในสมองคิดแต่ว่าทำอย่างไรถึงจะขายได้ ทำอย่างไรจึงจะได้กำไรและรักษาคุณภาพไว้อย่างสม่ำเสมอ และมีวิธีไหนที่จะทำให้ตลาดรู้จักและทดลองใช้สินค้าหรือบริการของตัวเองดี และทำอย่างไรจะได้เงินทุนหมุนเวียน ฯลฯ เรียกว่าผู้ที่เปิดกิจการใหม่ๆ
อาจจะมีปัญหาและคำถามอยู่ในใจมากมาย ระวังเรื่องการทำบัญชี ก่อนเริ่มธุรกิจ ที่จะต้องบอกให้ระวังเรื่องการทำบัญชีก่อนที่จะเริ่มทำธุรกิจก็เพราะว่ากิจการที่เป็นนิติบุคคลนั้น จะมีหน้าที่ส่งงบการเงินให้กระทรวงพาณิชย์ทุกปี และหากงบเริ่มต้นวันที่ 1 มกราคม และไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม กิจการก็จะต้องนำส่งงบการ เงินภายใน 150 วันของปีถัดไป และงบการเงินเองก็จะต้องได้รับการรับรองจากผู้สอบบัญชีภาษีอากร
หรือผู้สอบบัญชีรับอนุญาต แต่นอกเหนือจากนั้นกิจการก็ยังคงต้องเสียภาษีให้กรมสรรพากรสองครั้งต่อปี ซึ่งในครั้งแรกต้องนำส่งภายในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นรายได้ที่เกิดระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน และครั้งที่สองจะต้องส่งภายในเดือนพฤษภาคม โดยเป็นเดือนที่ครบ 150 วัน แต่มีการยกเว้นสำหรับกิจการที่เพิ่งเริ่มต้นเป็นปีแรก และไม่จำเป็นต้องนำส่งภาษีครึ่งปีในเดือนสิงหาคม บัญชีมีความสำคัญต่อผู้ประกอบกิจการ แน่นอนว่าการทำบัญชีมีความสำคัญต่อผู้ประกอบกิจการที่ไม่น้อยไปกว่าการผลิตและการตลาด
ซึ่งข้อมูลบัญชีจะทำให้เจ้าของกิจการสามารถทราบความเป็นไปทั้งหมดเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของกิจการ ว่าเงินสดได้มาเท่าไหร่ และจ่ายออกไปเท่าไหร่ หรือมีเจ้าหนี้ ลูกหนี้ คงค้างอยู่เท่าไหร่ ซึ่งข้อมูลทางบัญชีที่ดีนั้นจะทำให้เจ้าของกิจการสามารถมองออก ทางข้อมูลทางบัญชีดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีความสมบูรณ์และง่ายแก่การเข้าใจ เป็นเรื่องดีที่ผู้ประกอบกิจการมีความเข้าใจเรื่องบัญชีซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
ในกรณีที่พนักงานที่จ้างมาทำบัญชีทำงานไม่เป็นและอาจถูกสรรพากรปรับ ก่อ ให้เกิดความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งเจ้าของกิจการก็ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบไปให้พนักงานบัญชีได้ และยังต้องได้รับโทษทั้งทางแพ่งและอาญากับทางราชการอีกด้วย หลักการทำบัญชีง่ายนิดเดียว รายการบัญชีก็คือ เหตุการณ์ที่กิจการเกี่ยวข้องทางการเงินที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน
เจ้าของจะรู้ดีที่สุดว่ากิจการได้จ่ายเงินให้ใคร เพื่ออะไร จำนวนเงินเท่าไร ซึ่งจะต้องมีการบันทึกด้วยความเข้าใจ แค่การทำข้อมูลบัญชีแบบง่ายๆ ก็สามารถควบคุมกำไรขาดทุนของกิจการได้แล้ว เพียงแค่เตรียมสมุดหนา ๆ แบ่งหน้ากระดาษออกเป็นแนวตั้ง 7 แถว จดบันทึกในแต่ละแถวโดยแถวที่ 1 เป็นวันที่ทำรายการ ,แถวที่ 2 รายการรับเงินสดหรือเช็ค ,แถวที่ 3 บันทึกผู้รับหรือผู้ที่จ่าย เงินหรือเช็ค ,แถวที่ 4 คำอธิบายคร่าว ๆ ,แถวที่ 5 รายรับ และแถวที่ 6 รายจ่าย ส่วนแถวที่ 7 ยอดคงเหลือ (คือ ราย รับ – รายจ่าย) โดยต้องทำตามลำดับก่อน-หลังโดยบันทึกต่อเนื่องกัน ห้ามข้ามไปข้ามมา และเขียนด้วยหมึก
แต่หากมีการแก้ไขรายการที่บันทึกให้เซ็นต์ชื่อกำกับทุกครั้ง ,เก็บเอกสารให้เป็นหมวดหมู่ เมื่อบันทึกได้ครบหนึ่งเดือน และบวกยอดรวมสรุปรายรับ-รายจ่ายประจำเดือน จะทำให้เห็นชัดเจนว่าเดือนนี้คุณมีกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่
อ่านเพิ่มเติม >> เคล็ดลับการทำบัญชี