ภาษีอากรและมาตรฐานการบัญชีเป็นสองเครื่องมือทางการเงินที่มีวัตถุประสงค์และการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
-
ภาษีอากร (Taxation)
- วัตถุประสงค์ ภาษีอากรมีวัตถุประสงค์ในการรับรักษารายได้ให้แก่รัฐ เพื่อใช้ในการดำเนินการแผนงานและโครงการของรัฐ รวมถึงการสนับสนุนสวัสดิการสาธารณะ เช่น การศึกษา รักษาการรักษาสุขภาพ และพื้นที่พักอาศัย ภาษีอากรมีบทบาทสำคัญในการเก็บเงินส่วนหนึ่งของรายได้แห่งประเทศ
- การชำระภาษี ภาษีอากรจะต้องชำระตามกฎหมายและกำหนดการชำระที่ระบุ ภาษีอากรมีความหลากหลายในรูปแบบและอัตราต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นภาษีรายได้ส่วนบุคคล, ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษีอากรสรรพสิ่ง, และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับประเทศและกฎหมายของแต่ละท้องถิ่น
-
มาตรฐานการบัญชี (Accounting Standards)
- วัตถุประสงค์ มาตรฐานการบัญชีมีวัตถุประสงค์ในการเก็บบันทึกข้อมูลการเงินและรายงานทางการเงินของธุรกิจหรือองค์กรให้มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ลงทุน ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน และส่วนราชการสามารถวิเคราะห์และทบทวนสถานะการเงินได้
- การรายงาน มาตรฐานการบัญชีกำหนดกฎระเบียบในการบันทึกข้อมูลการเงินและสร้างรายงานทางการเงิน เช่น งบการเงิน รายงานรายได้และกำไรขาดทุน เพื่อให้ผู้ใช้ข้อมูลสามารถเข้าใจและใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ มาตรฐานการบัญชีที่รู้จักทั่วไปรวมถึงมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (International Financial Reporting Standards IFRS) และมาตรฐานการบัญชีทางภาษี (Generally Accepted Accounting Principles GAAP) ที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา
ดังนั้น ภาษีอากรและมาตรฐานการบัญชีเป็นสิ่งที่แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์และการใช้งาน โดยภาษีอากรเน้นการเก็บรายได้ส่วนหนึ่งของรัฐ ในขณะที่มาตรฐานการบัญชีเน้นการบันทึกข้อมูลการเงินและรายงานทางการเงินของธุรกิจหรือองค์กรเพื่อการจัดการและรายงานการเงินให้ถูกต้องและครบถ้วน